ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วงการฟุตบอลในประเทศไทย ถือว่าพัฒนาขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับในอดีต ทั้งในการแข่งขันระดับสโมสร และระดับทีมชาติ ทำให้ความหวังที่จะเห็นทีมจากประเทศไทย ทั้งในระดับสโมสรและระดับชาติ ก้าวขึ้นไปโลดแล่น อยู่บนเวทีการแข่งขันที่ใหญ่ขึ้นนั้น พอจะมีความเป็นไปได้มากขึ้น ๆ ทุกที และสิ่งเหล่านี้มันจะเกิดขึ้นไม่ได้อย่างแน่นอน หากไร้ซึ่งกลุ่มคน กลุ่มหนึ่งที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้เล่นคนที่สิบสองของทีม นั่นก็คือเหล่าแฟนบอลนั่นเอง เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนา ของวงการฟุตบอล นั้นก็คือแฟนบอลที่อยู่ข้างสนาม เพราะนอกจากจะเป็นเสียงเชียร์ หรือเป็นกำลังใจให้บรรดานักเตะในสนามแล้ว เหล่าแฟนบอลนี่แหละคือผู้ที่อยู่ เบื้องหลังทั้งด้านกระตุ้นกระแสฟุตบอลในประเทศ และเงินสนับสนุนเหล่านักกีฬา เพราะหากไม่มีกองเชียร์ที่ติดตามเชียร์ ทีมสโมสรก็จะไม่มีรายได้จากการขายบัตร ไม่มีรายได้จากการถ่ายทอดสด และหากขาดรายได้เหล่านี้ไป นั่นก็เท่ากับว่า ทางสโมสรจะไม่มีเม็ดเงิน ที่จะใช้ในการจ่ายค่าแรง ให้แก่ผู้เล่น และก็จะไม่มีผู้เล่นเก่ง ๆ ถูกผลักดันขึ้นสู่ทีมชาตินั่นเอง หากเรียงลำดับการพัฒนาแล้วจะเห็นว่า การพัฒนาของทีมชาติ มีผลมาจากการพัฒนาของสโมสรในลีกอาชีพ และการพัฒนาทีมสโมสร ก็มีผลมาจากการสนับสนุน ของบรรดาแฟนบอลนั่นเอง สำหรับแฟนฟุตบอลไทยนั้น เป็นแฟนบอลที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก จากเสียงชื่นชมของชาวต่างชาติ ที่เคยได้สัมผัสบรรยากาศการเชียร์ของพวกเขา ทั้งในแง่ของปริมาณและคุณภาพ อย่างเช่นการแข่งขันรายการ เยาวชนชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเอเอฟซี
Tag: ทีมชาติไทย
กีฬาที่มักจะสร้างชื่อให้กับ ทัพนักกีฬาชาวไทยเสมอ นั่นก็คือกีฬาประเภทศิลปะการต่อสู้ จนเป็นที่มาของคำพูดเชิงขำขันที่ว่า หากเป็นกีฬาด้านการเตะต่อย นักกีฬาทีมชาติไทย ไม่แพ้ผู้ใดในโลก ถึงแม้ว่ากีฬาชนิดนั้นจะเป็นกีฬานำเข้า ไม่ใช่กีฬาประจำชาติไทยเราก็ตาม และหนึ่งในชนิดกีฬาศิลปะการต่อสู้ ที่ไทยเรานำเข้ามาจากต่างประเทศ และสามารถทำผลงานได้ดีในระดับนานาชาติ ก็คือกีฬาเทควันโด ศิลปะการต่อสู้ประจำชาติเกาหลีนั่นเอง ช่วงหลายปีมานี้ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ต่างประสบความสำเร็จมากมาย ในเวทีระดับชาติ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันรายการเล็กใหญ่ที่ไหน ทัพนักเทควันโด มักจะทำให้แฟน ๆ กีฬาชาวไทย ยิ้มได้อย่างมีความสุขเสมอ โดยเฉพาะนับตั้งแต่การก้าวเข้ามารับ ตำแหน่งผู้ฝึกสอนของโค้ชชาวเกาหลีใต้ อย่างโค้ชเช หรือชื่อเต็มคือ เชว ยอง ซอก ที่นอกจากจะเป็นผู้ฝึกสอนแล้ว ยังมีส่วนอย่างยิ่งในการวางรากฐาน กีฬาเทควันโดในประเทศไทย มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ปี 2545 จนตอนนี้ โค้ชเชได้สัญชาติไทยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับผลงาน ของนักกีฬาที่โค้ชเชได้สร้างขึ้นมา ก็พัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้อันดับโลกของทีมชาติไทย ในกีฬาชนิดนี้ ก้าวจากอันดับท้าย ๆ ขึ้นมาอยู่บนสิบอันดับแรกของโลก ได้อย่างยาวนาน แน่นอนว่าเป้าหมายใหญ่ของกีฬาเทควันโด ก็เหมือน ๆ กับกีฬาสากลชนิดอื่น ๆ นั่นคือบนเวทีโอลิมปิกนั่นเอง หลังจากการก้าวเข้ารับตำแหน่งของโค้ชเช