หลังจากความผิดหวังครั้งใหญ่ ของทัพนักวอลเลย์บอลสาวไทย สำหรับการพลาดคว้าตั๋วสู่โอลิมปิก โตเกียว 2020 ที่จัดการแข่งขันรอบสุดท้าย ที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นความผิดหวังของนักกีฬา และบรรดาสต๊าฟโค้ช เท่านั้น แต่ความผิดหวังครั้งนี้ ก็ทำให้ บรรดาแฟนวอลเลย์บอลที่ คอยติดตามเอาใจช่วยพวกเธอมาอย่างยาวนาน และคาดหวังกับการแข่งขันรายการนี้ มากพอ ๆ กับพวกเธอ ถึงขั้นเสียน้ำตากันทั้งประเทศเลย สำหรับนักวอลเลย์บอลสาวไทยนั้น พวกเธอคือผู้สร้างความสุข ให้แก่แฟน ๆ วอลเลย์บอล และแฟนกีฬาชาวไทยมาอย่างยาวนาน พวกเธอพาทีมชาติไทย ก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับหัวแถวของทวีป และได้เข้าร่วมรายการแข่งขันระดับโลก มาหลายรายการ แต่รายการที่พวกเธอยังไม่สามารถคว้าสิทธิ์ในการเข้าร่วมแข่งขันได้ และเป็นเป้าหมายสูงสุด ในชีวิตนักกีฬาคือการเข้าไปเล่นในรายการใหญ่ อย่างมหกรรมกีฬาโอลิมปิกนั่นเอง และโอลิมปิกครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นครั้งที่ใกล้เคียงที่สุดแล้ว กับการคว้าความฝันของพวกเธอ และแฟนวอลเลย์บอลชาวไทย ทั้งการที่ทีมชาติญี่ปุ่นคว้าสิทธิ์ไปแล้วจากการเป็นเจ้าภาพ แถมรอบสุดท้ายยังเล่นในบ้านเราอีก นั่นจึงทำให้ความผิดหวังครั้งนี้ มันส่งผลกระทบต่อจิตใจของทุกคนอย่างมาก หลังการแข่งขันมีเรื่องราวมากมายตามมา ทั้งการประกาศลาออกจากตำแหน่งของโค้ชด่วน รวมไปถึงการเลิกเล่นของรุ่นพี่ในทีม ทำให้เกิดคำถามมากมาย เกี่ยวกับอนาคตของวงการวอลเลย์บอลไทย แต่หลังจากพักผ่อนรักษาแผลใจกันเรียบร้อยแล้ว ทางสมาคมก็ประกาศแต่งตั้งโค้ชด่วน กับเข้ามารับตำแหน่งอีกครั้ง หลังจากเจรจาเรื่องแผนในอนาคตกันแล้ว และบรรดาผู้เล่นรุ่นใหญ่ ก็ขอช่วยประคองรุ่นน้องต่อไปอีกซักระยะหนึ่ง ทำให้ความกังวลในเรื่องการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ของทีมวอลเลย์บอลทีมชาติไทย

ในโลกแห่งกีฬาฟุตบอล นอกจากรายการแข่งขันฟุตบอลโลก หรือฟีฟ่าเวิร์ลด์ คัพ ที่เป็นรายการที่ใหญ่ที่สุดแล้ว อันดับที่สองรองลงมา คงจะหนีไม่พ้นรายการชิงแชมป์ แห่งชาติยุโรป (European Football Championship) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อฟุตบอลยูโรนั่นเอง ว่ากันว่าการแข่งขันยูโร เป็นรายการที่ใหญ่ไม่แพ้ฟุตบอลโลกเลยทีเดียว จนมีคำกล่าวที่ว่า ฟุตบอลยูโร ก็คือฟุตบอลโลกที่ไม่มีอาร์เจนติน่า กับบราซิลนั่นเอง การแข่งขันรายการชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปนั้น จัดขึ้นโดยสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า โดยจะมีการจัดการแข่งขันขึ้นทุก 4 ปีเช่นเดียวกับฟุตบอลโลก และห่างจากฟุตบอลโลก 2 ปีด้วยกัน และในคราวนี้ มันก็เวียนมาครบรอบการจัดในปี 2020 นี้พอดี โดยในการจัดครั้งนี้มีความพิเศษอีกอย่างหนึ่ง คือการฉลองวาระครบรอบ 60 ปีของรายการ โดยมีการเพิ่มความพิเศษเข้ามาอีก ด้วยการจัดให้มีเจ้าภาพร่วมกันถึง 12 เมืองใน 12 ประเทศ ได้แก่ โรม(อิตาลี), บากู(อาร์เซอร์ไบจาน), เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก(รัสเซีย), โคเปนเฮเกน(เดนมาร์ค), อัมสเตอร์ดัม(เนเธอร์แลนด์), บูคาเรสต์(โรมาเนีย), ลอนดอน(อังกฤษ), กลาสโกว์(สก็อตแลนด์), บิลเบา(สเปน), ดับบลิน(สาธารณะรัฐไอร์แลนด์), มิวนิค(เยอรมัน) และบูดาเปสต์(ฮังการี) เพื่อเป็นการกระจายฟุตบอลไปสู่ส่วนต่าง ๆ