ในปีคริสต์ศักราช 2021 นี้ ทางสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งทวีปอเมริกาใต้ กำหนดให้มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ระดับทวีป หรือโคปา อเมริกาขึ้นอีกครั้ง ซึ่งหลายคนอาจจะเกิดความสงสัยว่า ทำไมถึงมีการจัดการแข่งขันในรายการนี้อีกในปี 2021 ทั้งที่ พึ่งจะมีการแข่งขันรายการนี้ แล้วเสร็จไปเมื่อปี 2019 ที่ประเทศบราซิล ซึ่งปกติแล้วก็จะต้องนับไปอีก 4 ปี ถึงจะครบรอบการจัดอีกครั้ง แต่ที่ต้องมีการจัดการแข่งขันขึ้นในครั้งนี้ ก็เพราะมันเป็นโอกาสพิเศษนั่นเอง การจัดการแข่งขันโคปา อเมริกา 2021 นี้ เป็นการจัดขึ้นเพื่อฉลองวาระโอกาสพิเศษ อย่างการก่อตั้งสมาพันธ์ฟุตบอล แห่งทวีปอเมริกาใต้ ( CONMEBOL ) นั่นเอง ซึ่งประจวบเหมาะมาครบรอบเอาตรงกับปีนี้ ซึ่งพึ่งจะผ่านไปสองปี ความจริงแล้ว จะมีระยะห่างเพียงแค่หนึ่งปีด้วยซ้ำ เพราะแผนการจัดการแข่งขันจริง ๆ ก็คือในปี 2020 แต่เป็นอันต้องเลื่อนออกไปอีกหนึ่งปี อันเป็นผลกระทบมาจากการเกิดโรคระบาด โควิด-19 นั่นเอง แต่จะนับการจัดเป็นปี 2020 เช่นเดิม นั่นคือการนับวาระครบรอบการจัดครั้งต่อไปจะนับต่อจากปี 2020 ไปอีกสี่ปีคือปี 2024 นั่นเอง สำหรับการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ทางสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ ได้กำหนดชาติเจ้าภาพไว้คือ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วงการฟุตบอลในประเทศไทย ถือว่าพัฒนาขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับในอดีต ทั้งในการแข่งขันระดับสโมสร และระดับทีมชาติ ทำให้ความหวังที่จะเห็นทีมจากประเทศไทย ทั้งในระดับสโมสรและระดับชาติ ก้าวขึ้นไปโลดแล่น อยู่บนเวทีการแข่งขันที่ใหญ่ขึ้นนั้น พอจะมีความเป็นไปได้มากขึ้น ๆ ทุกที และสิ่งเหล่านี้มันจะเกิดขึ้นไม่ได้อย่างแน่นอน หากไร้ซึ่งกลุ่มคน กลุ่มหนึ่งที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้เล่นคนที่สิบสองของทีม นั่นก็คือเหล่าแฟนบอลนั่นเอง เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนา ของวงการฟุตบอล นั้นก็คือแฟนบอลที่อยู่ข้างสนาม เพราะนอกจากจะเป็นเสียงเชียร์ หรือเป็นกำลังใจให้บรรดานักเตะในสนามแล้ว เหล่าแฟนบอลนี่แหละคือผู้ที่อยู่ เบื้องหลังทั้งด้านกระตุ้นกระแสฟุตบอลในประเทศ และเงินสนับสนุนเหล่านักกีฬา เพราะหากไม่มีกองเชียร์ที่ติดตามเชียร์ ทีมสโมสรก็จะไม่มีรายได้จากการขายบัตร ไม่มีรายได้จากการถ่ายทอดสด และหากขาดรายได้เหล่านี้ไป นั่นก็เท่ากับว่า ทางสโมสรจะไม่มีเม็ดเงิน ที่จะใช้ในการจ่ายค่าแรง ให้แก่ผู้เล่น และก็จะไม่มีผู้เล่นเก่ง ๆ ถูกผลักดันขึ้นสู่ทีมชาตินั่นเอง หากเรียงลำดับการพัฒนาแล้วจะเห็นว่า การพัฒนาของทีมชาติ มีผลมาจากการพัฒนาของสโมสรในลีกอาชีพ และการพัฒนาทีมสโมสร ก็มีผลมาจากการสนับสนุน ของบรรดาแฟนบอลนั่นเอง สำหรับแฟนฟุตบอลไทยนั้น เป็นแฟนบอลที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก จากเสียงชื่นชมของชาวต่างชาติ ที่เคยได้สัมผัสบรรยากาศการเชียร์ของพวกเขา ทั้งในแง่ของปริมาณและคุณภาพ อย่างเช่นการแข่งขันรายการ เยาวชนชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเอเอฟซี

ในโลกแห่งกีฬาฟุตบอล นอกจากรายการแข่งขันฟุตบอลโลก หรือฟีฟ่าเวิร์ลด์ คัพ ที่เป็นรายการที่ใหญ่ที่สุดแล้ว อันดับที่สองรองลงมา คงจะหนีไม่พ้นรายการชิงแชมป์ แห่งชาติยุโรป (European Football Championship) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อฟุตบอลยูโรนั่นเอง ว่ากันว่าการแข่งขันยูโร เป็นรายการที่ใหญ่ไม่แพ้ฟุตบอลโลกเลยทีเดียว จนมีคำกล่าวที่ว่า ฟุตบอลยูโร ก็คือฟุตบอลโลกที่ไม่มีอาร์เจนติน่า กับบราซิลนั่นเอง การแข่งขันรายการชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปนั้น จัดขึ้นโดยสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า โดยจะมีการจัดการแข่งขันขึ้นทุก 4 ปีเช่นเดียวกับฟุตบอลโลก และห่างจากฟุตบอลโลก 2 ปีด้วยกัน และในคราวนี้ มันก็เวียนมาครบรอบการจัดในปี 2020 นี้พอดี โดยในการจัดครั้งนี้มีความพิเศษอีกอย่างหนึ่ง คือการฉลองวาระครบรอบ 60 ปีของรายการ โดยมีการเพิ่มความพิเศษเข้ามาอีก ด้วยการจัดให้มีเจ้าภาพร่วมกันถึง 12 เมืองใน 12 ประเทศ ได้แก่ โรม(อิตาลี), บากู(อาร์เซอร์ไบจาน), เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก(รัสเซีย), โคเปนเฮเกน(เดนมาร์ค), อัมสเตอร์ดัม(เนเธอร์แลนด์), บูคาเรสต์(โรมาเนีย), ลอนดอน(อังกฤษ), กลาสโกว์(สก็อตแลนด์), บิลเบา(สเปน), ดับบลิน(สาธารณะรัฐไอร์แลนด์), มิวนิค(เยอรมัน) และบูดาเปสต์(ฮังการี) เพื่อเป็นการกระจายฟุตบอลไปสู่ส่วนต่าง ๆ